ลักษณะของการปวดท้อง เป็นอาการซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนและก็ทุกเพศทุกวัย ซึ่งลักษณะของการปวดท้องในแต่ละคน หรือในแต่ละครั้งก็อาจมีตำแหน่งที่ไม่ดังเดิม เพราะเหตุว่าในท้องของผู้คนประกอบไปด้วยอวัยวะหลายสิ่งหลายอย่าง ทำให้ตำแหน่งของการเจ็บท้องเกิดขึ้นได้หลายจุด ก็เลยจำเป็นต้องดูให้ดีว่าลักษณะของการปวดท้องเกิดขึ้นกับตำแหน่งใด เพื่อค้นหามูลเหตุลักษณะของการปวดท้องว่ามาจากอะไร วันนี้พวกเราก็เลยเก็บตำแหน่งลักษณะของการปวดท้อง ที่สามารถจะช่วยบอกให้ทราบได้ว่าเป็นโรคอะไร หรือเจ็บท้องตำแหน่งไหน เจ็บท้องแบบใดที่ควรจะเข้ามาเจอหมอ
7 ตำแหน่งลักษณะของการปวดท้อง ปวดตำแหน่งนี้ บอกโรคอะไร ?
1. เจ็บท้องด้านขวาที่อยู่ข้างบน หรือเจ็บท้องใต้กระดูกซี่โครงขวา
- นิ่วในถุงน้ำดี ชอบมีลักษณะอาการท้องขึ้น ท้องอืดรอบๆเหนือสะดือเหมือนลักษณะของของกินไม่ย่อย อ้วก อ้วก ร่วมกับปวดบิดรุนแรงเป็นช่วงตรงรอบๆใต้ลิ้นปี่หรือใต้ชายโครงขวา ตัวแล้วก็ตาเหลืองเหมือนโรคดีซ่าน
- กรวยไตข้างขวาอักเสบ ลักษณะของการปวดรอบๆสีข้างหรือบั้นท้ายข้างขวาขึ้นอย่างฉับพลัน เยี่ยวหลายครั้ง รู้สึกเจ็บปวดตลอดระยะเวลา มีกลิ่นเหม็น มีสีขุ่นและก็อาจมีเลือดหรือหนองคละเคล้ามาพร้อมกับฉี่
- นิ่วในไตข้างขวา มักมีลักษณะอาการปวดหลังหรือท้องตอนล่างข้างขวา ปวดแบบเสียด หรือปวดบิดเป็นช่วงจับไข้หนาวสั่น ร่วมกับเยี่ยวบ่อยครั้งแม้กระนั้นน้อย ขัดข้อง ไม่ค่อยออก เจ็บแสบ ฉี่มีสีแดง ขุ่นรวมทั้งมีทรายผสมอยู่ด้วย
2. เจ็บท้องด้านขวาล่าง หรือท้องน้อยขวา
- ไส้ติ่งอักเสบ ชอบเริ่มจุกแน่นรวมทั้งปวดตรงลิ้นปี่ หรือบริเวณรอบๆสะดือก่อน ซึ่งจะคล้ายกับโรคกระเพาะ หลังจากนั้นจะเลื่อนลงมาปวดตรงตอนท้องน้อยทางด้านขวา จะรู้สึกเจ็บปวดมากขึ้นเรื่อยๆเมื่อขยับเขยื้อนตัว หรือไอ จาม ร่วมกับจับไข้ หนาวสั่นได้
- ปีกมดลูกขวาอักเสบ ชอบมีลักษณะเจ็บท้อง หรือเจ็บท้องน้อยในตอนที่มีเซ็กส์ หรืออยู่ในตอนตกไข่มีเมนส์ ตกขาวแตกต่างจากปกติเป็นหนอง มีกลิ่นเหม็น ฉี่ขัด และก็ในบางบุคคลที่มีลักษณะแบบกะทันหันจะเป็นไข้ร่วมด้วย
3. เจ็บท้องด้านซ้ายบน หรือเจ็บท้องใต้กระดูกซี่โครงซ้าย
- โรคกระเพาะของกินอักเสบ จุก เสียด แน่นท้องรอบๆลิ้นปี่หรือใต้กระดูกซี่โครงด้านซ้าย บางเวลาก่อนมื้อของกินจะปวดบีบก่อนแล้วคลาย แล้วก็เมื่อทานอาหารได้นิดนึงจะรู้สึกอิ่มไว จุกท้อง
- โรคตับอ่อนอักเสบ มักมีลักษณะอาการเจ็บท้องข้างซ้ายตอนบนอย่างหนักแล้วก็อาจมีร้าวไปรอบๆกึ่งกลางข้างหลังได้ กดแล้วปวดท้องบอกตำแหน่งได้ แม้กระนั้นท้องไม่แข็ง ร่วมกับจับไข้ อ้วก อ้วก
- ม้ามแตก โดยส่วนมากมีต้นเหตุจากการชนร้ายแรง หรือม้ามโตจนถึงแตก โดยชอบมีลักษณะเจ็บท้องอย่างหนักโดยเฉพาะอย่างยิ่งทางด้านซ้าย เวลากดและก็หายใจจะรู้สึกเจ็บ ในบางรายที่เสียเลือดมากมายอาจมีความดันต่ำ วิงเวียนเหมือนจะเป็นลมเป็นแล้ง
- กรวยไตข้างช้ายอักเสบ ลักษณะของการปวดมักเกิดขึ้นอย่างกระทันหันรอบๆสีข้างหรือบั้นท้ายข้างซ้าย เยี่ยวบ่อยมากรวมทั้งปวดท้องเยี่ยวตลอดระยะเวลา ทั้งยังยังมีกลิ่นเหม็น มีสีขุ่นแล้วก็บางรายอาจมีเลือด หรือหนองผสมมาพร้อมกับฉี่
- นิ่วในไตข้างช้าย มักมีลักษณะปวดแบบเสียด หรือปวดบิดเป็นช่วงที่ข้างหลัง หรือท้องตอนล่างทางซ้าย ทั้งเป็นไข้หนาวสั่นร่วมกับเยี่ยวบ่อยมาก เจ็บ แสบ ขัดข้อง ไม่ค่อยออก มีสีขุ่นและก็มีทรายผสมอยู่ด้วย
4. เจ็บท้องด้านซ้ายล่าง หรือท้องน้อยซ้าย
- โรคไส้อักเสบ ผู้เจ็บป่วยโดยมากมักมีลักษณะถ่ายเหลวฉับพลัน หรือมากยิ่งกว่า 3 ครั้ง/วัน ร่วมกับลักษณะของการปวดท้องน้อยทางด้านซ้าย จับไข้ เมื่อยล้าตัวได้ ทั้งในบางครั้งอาจมีถ่ายคละเคล้ามูกหรือเลือดด้วยได้
- ปีกมดลูกข้างซ้ายอักเสบ ชอบมีลักษณะอาการเจ็บท้องน้อยตอนที่ร่วมเพศ หรือตอนมีระดู ตกขาวไม่ดีเหมือนปกติ มีกลิ่นเหม็นแล้วก็สีเหลืองเป็นหนอง ฉี่ขัด และก็ในบางบุคคลที่มีลักษณะอาการแบบทันควันจะเป็นไข้ร่วมด้วย
5. ปวดท้องตรงกลาง ใต้ลิ้นปี่
- โรคหัวใจขาดเลือด อาการสำคัญหมายถึงจุกใต้ลิ้นปี่ เจ็บแน่นตอนกึ่งกลางทรวงอก หรือค่อนมาทางด้านซ้าย เจ็บลึกๆหายใจติดขัด บ้างก็เจ็บปวดรวดร้าวไปฟันกราม สะบักข้างหลัง แขนซ้ายและก็หัวไหล่ได้ ร่วมกับเหงื่อไหล ใจสั่น หอบอิดโรย
- โรคกระเพาะของกินอักเสบ จำนวนมากมักมีลักษณะอาการปวด เสียด ทื่อ จุกรวมทั้งแน่นรอบๆใต้ลิ้นปี่ ก่อน-ข้างหลังมื้อของกิน หรือตอนท้องว่างชอบปวดบีบก่อนแล้วคลาย ไม่อยากอาหาร รู้สึกอิ่มตลอดระยะเวลา
- โรคกรดไหลย้อน มักแสบร้อนกึ่งกลางอกโดยยิ่งไปกว่านั้นข้างหลังมื้อของกิน เรอเปรี้ยว หรือเรอแล้วมีน้ำรสขมไหลย้อนขึ้นมา รวมทั้งมักไอแห้งๆเสียงแหบ เจ็บคอเรื้อรัง อาการท้องอืด แน่นท้อง เหมือนของกินไม่ย่อย
- นิ่วในถุงน้ำดี ชอบมีลักษณะอาการของกินไม่ย่อย ท้องเฟ้อ ท้องอืด อาเจียน อ้วก ร่วมกับปวดบิดรุนแรงเป็นช่วงตรงรอบๆใต้ลิ้นปี่หรือใต้ชายโครงขวา ตัวแล้วก็ตาเหลืองเหมือนโรคดีซ่าน
6. เจ็บท้องรอบสะดือ
- โรคไส้อักเสบ โดยมากพบบ่อยอาการถ่ายเหลวกะทันหันที่มากกว่า 3 ครั้ง/วัน ร่วมกับลักษณะของการปวดท้องตอนล่าง เป็นไข้ ปวดเมื่อยตัวได้ ทั้งในบางครั้งบางทีอาจถ่ายผสมมูกหรือเลือดด้วยได้
- ไส้ติ่งอักเสบ มักจุกแน่นรวมทั้งปวดเสียดตลอดระยะเวลาที่ลิ้นปี่ หรือบริเวณรอบๆสะดือ แล้วต่อจากนั้นจะเลื่อนลงมาปวดตรงตอนท้องน้อยทางด้านขวา เจ็บเยอะขึ้นเมื่อขยับเขยื้อนตัว หรือไอ จาม ซึ่งลักษณะของการปวดบางทีอาจใช้เวลานานถึง 6 ชั่วโมง หากแม้รับประทานยาก็ไม่ช่วยทุเลาลักษณะของการปวด
7. เจ็บท้องน้อยกึ่งกลาง
- โรคกระเพาะเยี่ยวอักเสบ มักมีลักษณะอาการปวด เสียด ทื่อ จุกรวมทั้งแน่นรอบๆใต้ลิ้นปี่ ท้องขึ้น ราวกับของกินไม่ย่อย เบื่อข้าว รู้สึกอิ่มตลอดระยะเวลา ทั้งก่อน-ข้างหลังมื้อของกิน หรือตอนท้องว่างชอบเจ็บท้องเสมอ
- มดลูกอักเสบ จะมีลักษณะปวดรอบๆเชิงกราน บางรายเจ็บปวดรวดร้าวไปถึงข้างหลัง แล้วก็อาการท้องอืดแน่น หรือท้องร่วง อาเจียน รู้สึกเมื่อยล้า เยี่ยวแสบขัด เวลาเบ่งฉี่หรืออุจจาระจะรู้สึกเจ็บปวด ตกขาวมีสีเหลืองหรือสีเขียวแล้วก็อาจมีเลือดผสม รวมทั้งมีเลือดไหลระหว่างแล้วก็ข้างหลังมีเซ็กส์ ในรายที่ร้ายแรงจะมีเลือดไหลในเวลาที่มิได้มีระดู
- เนื้องอกมดลูก มักปวดระดู ปวดถ่วงท้องน้อย แล้วก็เมนส์มาไม่ดีเหมือนปกติ นานๆครั้งมา มาบ่อยแตกต่างจากปกติ หรือมาในจำนวนมาก ถ้าหากเนื้องอกก้อนใหญ่จะลูบคลำพบได้ แล้วก็บางทีอาจกดทับไส้ให้ท้องผูก หรือกดทับกระเพาะปัสสาวะทำให้ฉี่หลายครั้งได้
ถึงแม้ว่าลักษณะของการ
ปวดท้อง ในบางครั้งจะสามารถหายเองได้ ก็เลยทำให้ผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยละเลยมีความรู้สึกว่าเกิดเรื่องน้อย แม้กระนั้นในเมื่อใดก็ตามเจ็บท้องพวกเราควรจะหมั่นพินิจตนเองอยู่เป็นประจำ เนื่องจากลักษณะของการปวดท้องในแต่ละตำแหน่งบางทีอาจเป็นสัญญาณเตือนความไม่ปกติที่กำลังก่อตัวจากด้านในให้พวกเรารู้สึกตัวตั้งแต่เนิ่นๆได้เช่นเดียวกัน
ซักถามข้อมูลเพิ่มเติมรวมทั้งนัดหมอพอดี
ศูนย์ทางเดินอาหารและก็ตับ ชั้น 5 โรงหมอหลุดพ้น
เวลาทำการ 08.00-20.00 น. โทร. 0-2079-0054
หรือดาวน์โหลด ViMUT Application เพื่อนัดหมายหมอ หรือบริการหารือแพทย์ออนไลน์