คุณเคยตื่นมาแล้วรู้สึกเหมือนยังไม่ได้พักผ่อนไหม? สาเหตุหนึ่งที่ไม่ทันคิดถึงก็คือ “การดื่มโค้กหรือเครื่องดื่มน้ำอัดลมก่อนนอน” ซึ่งอาจเป็นตัวการสำคัญที่รบกวนวงจรการนอนโดยไม่รู้ตัว
โค้กส่งผลอย่างไรต่อการนอนหลับ?🧃 1. คาเฟอีนที่แฝงอยู่ในน้ำอัดลม
โค้ก 1 กระป๋อง (ประมาณ 325 มล.) มีคาเฟอีนประมาณ 30-45 มิลลิกรัม ซึ่งดูเหมือนไม่มากนัก แต่ถ้าดื่มหลายกระป๋อง หรือดื่มก่อนนอน คาเฟอีนจะไปกระตุ้นสมองให้ตื่นตัว ทำให้หลับยาก หลับไม่ลึก และอาจทำให้ตื่นขึ้นหลายครั้งระหว่างคืน
🍬 2. น้ำตาลสูง
โค้กมีน้ำตาลสูงมาก (ประมาณ 35 กรัมต่อกระป๋อง) การรับน้ำตาลปริมาณมากก่อนนอนจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดแกว่งตัว ส่งผลให้ร่างกาย ตื่นตัว หรือแม้แต่ฝันร้ายโดยไม่รู้ตัว
💦 3. ทำให้ปัสสาวะบ่อย
คาเฟอีนและน้ำตาลในโค้กมีฤทธิ์ขับปัสสาวะ หากดื่มโค้กมากก่อนเข้านอน ร่างกายอาจต้องลุกไปเข้าห้องน้ำกลางดึก ทำให้วงจรการนอนถูกรบกวน และนอนไม่เต็มอิ่ม
ผลกระทบจากการ นอนหลับไม่สนิท เพราะโค้ก🔸 ตื่นมาแล้วยังรู้สึกเพลีย
🔸 เหนื่อยง่าย สมองทำงานช้าลง
🔸 อารมณ์ไม่คงที่
🔸 เสี่ยงติดเชื้อได้ง่ายขึ้น
🔸 เสี่ยงโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น ความดัน เบาหวาน
แนวทางปรับตัวเพื่อหลับดีขึ้นโดยไม่งดโค้กทั้งหมด✅ หลีกเลี่ยงน้ำอัดลมหลังช่วงบ่าย
✅ ดื่มน้ำเปล่าแทน โดยเฉพาะช่วงเย็น เพื่อช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย
✅ ลองดื่ม นม แทนโค้กก่อนนอน
✅ จำกัดน้ำตาลไม่ให้เกิน 30 กรัม
✅ {สร้างบรรยากาศการนอนที่ผ่อนคลาย เช่น ปิดไฟ|เตรียมห้องนอนให้น่านอน เช่น วางมือถือให้ห่าง|ปรับสภาพแวดล้อม เช่น ปิดเสียงรบกวน)
การดื่มโค้กมากเกินไปก่อนนอน อาจเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ คุณภาพการนอนแย่ลง เพราะส่วนประกอบในโค้กทั้งหมด
หากคุณต้องการ หลับสบายขึ้น ควรหลีกเลี่ยงการดื่มโค้กช่วงเย็น และเลือกพฤติกรรมที่ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย เพื่อสุขภาพการนอนที่ดีในระยะยาว