ติดต่อลงโฆษณา racingweb@gmail.com

ผู้เขียน หัวข้อ: แพ็กเกจฟื้นฟูสุขภาพผู้สูงวัยครบวงจร  (อ่าน 3724 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ abbeygk

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 153
    • ดูรายละเอียด
เฒ่า หรือ คนแก่หมายความว่าบุคคลอันเป็นที่ชื่นชมรักของลูกหลาน เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของทุกคนในครอบครัว ลูกหลานควรที่จะเอาใจใส่ดูแลท่านด้วยความรักและก็ความรู้ความเข้าใจ ถึงแม้สังคมไทยเดี๋ยวนี้จะกลายเป็นสังคมเมือง ที่คนส่วนมากต้องดำรงชีวิตรีบเร่ง แข่งกับเวลาโดยเฉพาะคนที่อยู่ในวัยทำงานอย่างลูกๆหลานๆอาจจะส่งผลให้ไม่ค่อยสบโอกาสได้ดูแลผู้สูงวัยที่บ้าน ถึงแม้มีสุภาษิตหนึ่งกล่าวไว้ว่า “สายน้ำไม่รออยู่ ช่วงไม่คอยคนใดกัน” ด้วยเหตุผลดังกล่าว ลูกหลานทุกคนควรตระหนักถึงค่าของเวลาและจากนั้นก็หาจังหวะใส่ใจท่านให้ยอดเยี่ยมเท่าที่จะทำเป็น เพื่อท่านมีสุขภาพที่เกี่ยวข้องทางร่างกายและสุขภาพหัวใจที่ดี เป็นสุข มีคุณภาพชีวิตที่ดีตามวัย เพื่ออยู่กับลูกหลานให้นานที่สุด

คนวัยชรา ตามความหมายของหน่วยงานองค์การสหประชาชาติเป็นผู้ที่แก่ตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป สำหรับประเทศไทยได้กำหนดนิยามผู้สูงวัยอย่างเป็นทางการตามพระราชบัญญัติคนสูงวัย พ.ศ.2546 โดย “คนสูงอายุ”หมายถึงบุคคลซึ่งแก่เกิน 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไปแล้วหลังจากนั้นก็มีเชื้อชาติไทย ซึ่งในเวลานี้สังคมไทยนับว่าเป็น “สังคมคนชรา” แล้ว เหตุเพราะมีคนสูงอายุมากกว่าปริมาณร้อยละ 10 ตามเกณฑ์ขององค์การสหประชาชาติ และเว้นเสียแต่มวลชนคนชราจะมีจำนวนมากเพิ่มขึ้นแล้ว ยังมีลักษณะท่าทางอายุยืนยาวขึ้นด้วยเหมือนกัน

เพื่อเป็นการแสดงถึงค่าของคนสูงอายุและให้คนธรรมดาทั่วไปได้ตั้งใจว่า ตลอดชีวิตก่อนหน้านี้ผู้สูงอายุได้สร้างค่ารวมทั้งความดีงามไว้มากมายกับสังคม องค์การสหประชาชาติก็เลยกำหนดให้ทุกๆวันที่ 1 ต.ค. ของทุกปี เป็น วันคนชราสากล หรือ International Day of Older Persons สำหรับประเทศไทยเรานั้น คณะรัฐมนตรีในสมัยรัฐบาล พล.อำเภอเปรม ติณสูลานนท์ ได้สรุปอนุมัติให้วันที่ 13 เมษายน ของทุกปี เป็น วันคนวัยแก่ เพื่อรณรงค์ให้สังคมเห็นค่ารวมถึงจุดหลักของผู้สูงวัย ซึ่งตรงกับวันสงกรานต์หรือปีใหม่ไทย โดยเป็นวันที่ทุกคนจะได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งครอบครัว ได้ทำกิจกรรมต่างๆร่วมกัน เช่น ทำบุญทำกุศลตักบาตร เข้าวัดฟังธรรม รดน้ำพระ รดน้ำดำหัวขอพรจากผู้สูงวัย เล่นน้ำวันสงกรานต์ ฯลฯ เป็นการสืบต่อประเพณีอันดีงามของไทย

ความเป็น ผู้อาวุโส นั้นมีความต่างกันระหว่างหญิงและชาย ระหว่างเขตเมืองและต่างจังหวัด อย่างที่เคยได้ยินกันมาว่าสตรีจะแก่เร็วกว่าผู้ชาย แล้วก็คุณยายในเมืองยังเปรี้ยวจี๊ดผิดกับคุณยายชนบทที่มักอยู่ติดบ้าน แต่ คนวัยชรานั้นสามารถตริตรองจาก หลักเกณฑ์ตามอายุปฏิทิน, มองดูจากลักษณะด้านนอก เป็นต้นว่า รูปหน้ามองดูแก่ ผิวหนังเหี่ยวย่น ผมหงอก, มีพฤติกรรมนิดๆหน่อยๆจู้จี้ ย้ำคิดย้ำทำ อารมณ์ไม่เหมือนเดิม, สุขภาพและจากนั้นก็ความจำไม่ดี จำเป็นต้องพึ่งพาคนอื่นและจากนั้นก็มีการเปลี่ยนแปลงสถานภาพไปเป็น ปู่ ย่า ตายาย ทวด รวมถึงเมื่ออายุ 60 ปีบริบูรณ์ ผู้สูงอายุ จะได้รับผลตอบแทนและสิทธิประโยชน์ต่างๆจากทางการ ดังเช่นว่า การได้รับเบี้ยเลี้ยงชีวิต ซึ่งสำเร็จผลดีการดูแลหลังจากการทำงาน หรือเป็นวัยเดียวกับวัยปลดเกษียณนั่นเอง

คนแก่ เป็นวัยที่จำเป็นต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ เนื่องจากว่าเป็นระยะๆวัยที่มีการเปลี่ยนแปลง เสื่อมโทรมลดน้อยในด้านต่างๆล้นหลาม ทั้งกายและจิตใจ อาจมีโรคเรื้อรังที่ประสงค์การดูแลรักษา เป็นต้นว่า ความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ โรคกระดูกพรุน โรคเกาต์ โรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท โรคจอประสาทตา อื่นๆอีกมากมาย แล้วก็การเคลื่อนที่ทางด้านจิตใจ อารมณ์ สังคม รวมทั้งเศรษฐกิจ ซึ่งคนวัยชราบางรายอาจไม่สามารถที่จะประมือกับการเคลื่อนที่นี้ได้ และอาจก่อให้เกิดปัญหาต่างๆตามมาจำนวนมาก เพราะฉะนั้น จุดหมายหลักของ การดูแลคนสูงอายุ ก็คือการทำให้คนสูงวัยดำรงชีพได้อย่างมีความสุข มีอิสระ แล้วก็มีคุณภาพ สามารถพึ่งพาตัวเองได้โดยพึ่งผู้อื่นน้อยที่สุด ถึงแม้ร่างกายจะลดน้อยหรือมีโรคประจำตัวอยู่ก็ตาม  การดูแลผู้ป่วยหลังผ่าตัด